ดูหนังออนไลน์ ซีรีย์เอเชีย
ซีรีย์เอเชีย Even If This Love Disappears Tonight คืนฝันก่อนฉันลืมคุณ Even If This Love Disappears Tonight เกิดเรื่องราวของ โทรุ ผู้เรียนชายหนุ่มที่ถูกสหายร่วมรุ่นบูลลี่ ท้าทายให้เขาไปรับรักขอเป็นแฟนกับ มาโอริ แบบซึ่งๆหน้า แม้กระนั้นปรากฏว่าคุณให้คำตอบกลับมาแบบเหนือความหวังว่า..ตกลง รวมทั้งโน่นก็เลยแปลงเป็นจุดเริ่มแรกความเชื่อมโยงฉันท์มิตรของทั้งสอง ภายใต้กฎการเป็นแฟนเลียนแบบๆที่ห้ามเผลอไผลคุ้นเคยเป็นเด็ดขาด จนกระทั่งทั้งหมดทุกอย่างกำลังเดินทางไปได้งาม เขากับคุณต่างแฮปปี้กับความรู้สึกดีๆที่ไม่สามารถที่จะกล่าวออกไปได้
ก่อนที่จะเขาจะได้รู้เรื่องราวที่ปกปิดไว้เป็นความลับของคุณที่ว่า คุณกำลังมีอาการป่วยด้วยโรคสมองเสื่อม ความจำจะหายไปทุกๆที่คุณหลับหนังประเด็นนี้ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงมาจากนิยายโรแมนซ์ขายดิบขายดีในปี 2020 ของ ไม่ซากิ อิชิโจะ ที่แน่ๆว่าพล็อตอะไรต่างๆย่อมจะเชิญชวนฝันและก็เชิญชวนรักเป็นพิเศษ พล็อตเรื่องรวมทั้งแนวทางของประเด็นนั้นเป็นสิ่งที่เดาได้อย่างง่ายๆ ได้แก่การใช้พล็อตแบบสูตรสำเร็จมาแต่งบนเรื่องราวที่กล่าวร้ายน่าดึงดูดและก็เชิงชั้นเข้าไปให้มีมิติแล้วก็ความลึกซึ้่งมากเพิ่มขึ้น
แต่ว่าถ้าว่าคุณติดตามหนังประเทศญี่ปุ่นมาเรื่อยก็บางทีก็อาจจะรู้สึกได้กว่านี่ก็เป็นเพียงแค่อีกหนึ่งรักประเทศญี่ปุ่นสไตล์เมโลโรแมนซ์ที่ก็ให้ฟีลที่ดี มีเรียกน้ำตาเบาๆแม้กระนั้นยังไม่ถึงกับขนาดฟูมฟายจำนวนมากอะไรบางทีอาจจะเป็นเพราะหนังได้ผู้กำกับยอดความสามารถ “ทากะฮิโระ ไม่กิ” คนที่ชำนาญงานสายหนังโรแมนซ์อะไรทำนองนี้มามากมาย ตั้งแต่หนังแจ้งกำเนิดของเขา We Were There อีกทั้ง 2 ภาค มาถึง My Tomorrow, Your Yesterday
รวมทั้งปัจจุบันกับหนังรีเมค Your Eyes Tell จะต้องขอบพระคุณที่เขาได้ดำเนินการที่กับมือ ซีรีย์เอเชีย แล้วก็รู้สึกแนวทางดีว่าจะเลือกไปทางไหน รวมทั้งผู้ชมกับแฟนหนังของเขาถูกใจที่จะมองอะไร พร้อมทั้งอยากได้อะไรจากหนังจำพวกนี้บอกเลยว่างานสร้างภาพยนตร์ของผู้กำกับทากะฮิโระ ยังค่อนข้างจะสม่ำเสมอกับการใส่เนื้อหาค่อนข้างจะดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานดีไซน์ภาพแล้วก็การเล่นกับแสงสว่างธรรมชาติ ที่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเสน่ห์ที่นักสร้างภาพยนตร์ผู้นี้ชอบถือมาใช้หนังรักของเขาบ่อยๆนับจากผลงานชิ้นแรกๆและก็ส่วนประกอบพวกนั้นเองก็เป็นเครื่องที่ช่วยกระตุ้นและก็เร่งเร้าอารมณ์ผู้ชมได้อยู่มือ
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นหนังรักพล็อตมันๆที่มิได้แปลกใหม่อะไรเลยก็ตาม แม้กระนั้นฟีลจากภาพและก็โทนของหนังก็สร้างอารมณ์ร่วมได้อย่างดีเยี่ยมแล้วก็แน่ๆว่าการแสดงของ ริโกะ ฟูกุโมโตะ เป็นตรึงตราต้องใจผู้ชมแบบอยู่มือตลอดทั้งเรื่อง ถึงหน้าที่แล้วก็ติดอยู่แรกเตอร์ที่คุณได้รับนั้นจะมิได้มีอะไรสลับซับซ้อนสักเท่าไหร่ นับว่าเป็นนักแสดงซึ่งสามารถเล่นได้ซื่อสัตย์สุจริตแบบตรงไปตรงมาในเรื่องได้มากที่สุดแล้ว แต่ว่าน่าประทับใจกับความก้าวหน้าของสาวคนนี้ที่เก่งขึ้นทุกวี่วัน
นี่เพียงแค่เข้าแวดวงมาได้ไม่ถึง 5 ปี แล้วก็ไต่ขึ้นมาระดับนางเอกแถวหน้าคนปัจจุบันได้แล้ว มั่นใจว่าในอนาคตคุณจะมีบทดีๆเข้ามาถึงมืออีกแน่ตอนที่ “ชุนซุเกะ ไม่ชิเอดะ” ที่อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีประสบการณ์เล่นหนังน้อยกว่า แม้กระนั้นจะต้องบอกเลยว่าผลงานชิ้นนี้ถือเป็นการแจ้งกำเนิดให้กับก้าวหน้าในฐานะดารานำชายหนัง ด้วยเหตุว่าเป็นบทที่ออกจะท้าตัวเขาอยู่ไม่น้อย มีอีกทั้งซีนอารมณ์และก็ซีนโรแมนซ์ที่จำเป็นต้องแบกรับไปตลอดทั้งเรื่อง แล้วก็เขาก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างจะดีมากยิ่งกว่าที่คิดเอาไว้ พร้อมกับยังโปรยปรายเสน่ห์แล้วก็ขับอินเนอร์ของผู้แสดงออกมาได้ดิบได้ดี
เสน่ห์ล้นแบบกระจายจายอย่างยิ่งจริงๆส่วนอีกผู้ที่ไม่กล่าวถึงคงจะมิได้ ก็ถือ “โกโทเนะ ฟูรุคาวะ” ยังคงมากับความสามารถทางการแสดงที่น่าดึงดูดอีกเหมือนปกติ แม้ว่าบทของคุณในหนังประเด็นนี้จะมิได้ถูกแสงสว่างสปอตไลต์เด่นนัก แม้กระนั้นก็ถือได้ว่าเป็นผู้แสดงที่สำคัญของเรื่องทีเดียว แล้วก็จะต้องเป็นคุณจริงๆที่จะหามแล้วก็ถ่ายทอดอารมณ์ทั้งหมดทุกอย่างติดอยู่แรกเตอร์นี้เอาไว้ได้หมด เป็นดาราอีกผู้ที่ส่งประกายในหนังหัวข้อนี้ หากว่าบทจะยังมิได้มีแสงสว่างสักเท่าไหร่
แม้กระนั้นคุณก็ฉีกกรอบและก็ให้การแสดงที่น่าประทับใจออกมาในน้อย ซีรีย์เอเชีย เป็นการเล่นน้อยแม้กระนั้นให้มากมายจริงๆEven If This Love Disappears Tonight คืนฝันก่อนฉันลืมคุณ ก็คงพูดได้ว่าเป็นรักประเทศญี่ปุ่นฟีลกู้ดรวมทั้งฟีลสลดๆตามสูตรที่คงจะทายใจทางกันได้ ถึงแม้ว่าหนังจะไม่ค่อยมีความแปลกใหม่อะไรสักเท่าไหร่เลย
แม้กระนั้นก็มีการแสดงจากกลุ่มดาราหนังที่ค่อนข้างจะน่าประทับใจถ่ายทอดออกมาได้อย่างเต็มเปี่ยมตลอดทั้งเรื่อง ส่วนประกอบงานสร้างของหนังหัวข้อนี้ก็เข้าขั้นดี เมื่อทำทุกๆส่วนประกอบมารวมกันนั้น ก็ออกมาเป็นหนังรักเมโลดราม่าที่ตื้นตันพอสมควร มีบางจุดที่น่าจำได้ ถึงแม้พล็อตจะค่อนข้างจะญี่ปุ๊นประเทศญี่ปุ่นวนอยู่ในอ่างเดิมๆก็ตาม
Salon de Nabi เติมฝัน ซาลอนรัก
หรืออีกชื่อที่รู้จักกันเป็น Fly High Butterfly เป็นซีรีส์ที่พาผู้ชมไปเจาะชีวิตอาชีพช่างแต่งผมมือโปรในประเทศเกาหลี ที่นำโดย โอกีปึม หญิงสาววัย 20 ต้นๆที่แรมรอนเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงเพียงคนเดียว เพื่อตามฝันการเป็นช่างแต่งผม ก่อนที่จะคุณจะได้มาเป็นพวกเด็กฝึกหัดอยู่ในซาลอนที่พึ่งจะเปิดใหม่ ทำให้ได้พบปะสนทนากับผู้ที่มีความชำนาญ, เพื่อนผู้ร่วมการทำงาน รวมทั้งลูกค้ามากมาย ทั้งๆที่คุณมีท่าทางที่ออกจะเงียบขริบและก็เข้าสังคมได้ยาก แม้กระนั้นโน่นแปลงเป็นจุดเริ่มการเล่าเรียนในความสามารถอาชีพและก็ชีวิตอีกมุมของคุณ
เดิมทีทีนั้น ซีรีส์หัวข้อนี้คิดแผนจะออนแอร์ที่ช่อง JTBC ของประเทศเกาหลีใต้ มาตั้งแต่ตอนต้นปี 2022 เพราะเหตุว่าได้เริ่มถ่ายทำกันมาตั้งแต่กลางปี 2021 แต่ว่าจนแล้วจนรอดก็ยังไม่วี่แวว จนกระทั่งได้มาลงหน้าจอที่สตรีมมิ่ง Prime Video แทน โดยในบ้านพวกเราพึ่งจะเอามาลงหน้าจอเมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งประเด็นนี้ได้ผู้เขียนบท “พัคยอนแก่นแก้ว” จากซีรีส์ Prosecutor Civil War กับ Age of Youth ทั้งยัง 2 ภาค มาละเลงปั้นเรื่องให้
เห็นด้วยเลยว่าในตอนแรกที่เปิดมอง Salon de Nabi เพิ่มเติมฝัน ซาลอนรัก ซีรีย์เอเชีย เป็นมิได้คิดแล้วก็คาดหมายอะไรเลย ทั้งยังยังไม่ค่อยทราบถึงรายละเอียดของซีรีส์เรื่องก่อนที่จะมองสักเท่าไหร่ แม้กระทั้งเรื่องย่อก็มิได้อ่าน เปิดเข้าไปมองเพราะเหตุว่ามีความเห็นว่ามันเกี่ยวกับแวดวงร้านเสริมสวย แม้กระนั้นปรากฏว่าสามารถเปิดเรื่องออกมาได้ออกจะน่าดึงดูด ด้วยการใช้ติดอยู่แรกเตอร์นักแสดงต่างๆที่มากมายในหัวข้อนี้มาเป็นตัวยกเรื่องได้อย่างน่าติดตาม
Salon de Nabi จะเป็นซีรีส์ประเทศเกาหลีที่ออกอรรถรสเป็นแถวซีรีส์ประเทศญี่ปุ่นไปมากมายสักนิด แนวดราม่าที่ผูกกับเหตุการณ์ต่างๆในวงวารสายอาชีพนั้น จะมีเหตุรวมทั้งปัญหาต่างๆเข้ามาเป็นท็อปปิกหลักสำหรับในการเล่าในแต่ละตอน โดยเหตุการณ์นั้นๆก็จะกระทำการเล่าแล้วก็คลี่คลายลงไปด้านในตอนเดียว รวมกับศาสตร์วิชาชีพแต่งหน้า ที่แน่ๆว่ามีอีกทั้งเหมือนและก็ไม่เหมือนกับแวดวงร้านเสริมสวยบ้านพวกเราอยู่เยอะแยะเช่นกัน
แวดวงซาลอนในประเทศเกาหลีนั้น คงจะคล้ายกับฝั่งประเทศญี่ปุ่นมากยิ่งกว่า โดยซีรีส์หัวข้อนี้จะมาเข้าไปเจาะลึกในมุมมองต่างๆรวมทั้งเล่าออกมาได้ค่อนข้างจะบันเทิงใจ อีกทั้งศาสตร์ช่างแต่งผม ถึงกรรมวิธีการบริการจัดแจงร้านค้าซาลอน ไล่เรียงไปสู่การต่อกรการลูกค้าจำพวกต่างๆอย่างมีระบบ อารมณ์ของซีรีส์เป็นมีความเป็นประเทศญี่ปุ่นอยู่ในซีรีส์ประเทศเกาหลี ที่แน่ๆว่าประเทศเกาหลีชอบมีลูกเล่นที่สนุกสนานกว่า เมื่อเอามาผสมกันก็เลยทำออกมาได้ออกจะเอ็นหน้าจอยกับผู้ชม
รวมทั้งมองได้เพลิดเพลินๆไม่ถึงกับติดหนึบอะไรขนาดนั้นซีรีส์ Salon de Nabi ประเด็นนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นเลิศในซีรีส์ที่มีดารารับเชิญแวะเวียนมาโผล่หน้าออกจะมากที่สุดอีกหัวข้อของปีเลยก็ว่าได้ เนื่องจากพวกเราจะได้มองเห็นดาราหนังน่าคุ้นๆที่บางครั้งก็อาจจะไม่ใช่ศิลปินเบอร์ใหญ่ๆแต่ว่าเป็นผู้แสดงสมทบที่พวกเรามองเห็นกันบ่อยๆ แวะเข้ามาเป็นลูกค้าที่ร้านค้าซาลอนวนเวียนกันไป แปลงเป็นอีกหนึ่งกิมไม่กที่ค่อนข้างจะพอดีของซีรีส์ประเด็นนี้
ตอนที่แคสติ้งของผู้แสดงหัวข้อนี้ก็จัดว่าทำเป็นออกจะดี ซีรีย์เอเชีย และก็จำเป็นต้องขอบคุณมากการออกแบบบทกับค้างแรกเตอร์ผู้แสดงทุกตัวที่ออกมาได้ชัดแจ้ง รวมทั้งทุกผู้แสดงนั้นมีมิติกับอินเนอร์ของตนเองได้อย่างเห็นได้ชัด ทำให้ทุกๆผู้แสดงในซีรีส์หัวข้อนี้มีชีวิตจิตใจทั้งหมดทั้งปวง เป็นตัวละครที่มีซีนเสมอภาคทุกๆคน ด้วยการถ่ายทอดจากดารามือโปร อย่าง “คิมฮยังกี”, “ชเวแดเนียล”, “โอยุนอา”, “ลองอึนอู” หรือ “พัคจองอู” ทั้งสิ้นแสดงออกมาได้สมหน้าที่ที่ได้รับจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คิมฮยังกี ที่พวกเรามองเห็นคุณคนนี้มาตั้งแต่เด็กๆเติบโตเป็นดาราหนังสาวในวันนี้ และก็แน่ๆว่าคุณสามารถแบกรับหัวข้อนี้ได้ออกจะสบายๆกับการออกแบบติดอยู่แรกเตอร์ที่น่าจะเป็นแนวถนัดของคุณไม่น้อย เล่นได้อีกทั้งน่าอึดอัดแล้วก็ผ่องใสไปในครั้งเดียวกันได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งหัวข้อนี้คงจะยังได้ผลสำเร็จงานชิ้นแรกๆของผู้แสดงชายหนุ่มดาวรุ่ง พัคจองอู ที่พึ่งแจ้งกำเนิดไปในฐานะพระรองในหนังดัง 20th Century Girl แน่ๆว่าในหัวข้อนี้เสน่ห์ของเขาก็เกลื่อนกลาดเรี่ยราดเรี่ยไม่แพ้กัน
หัวข้อนี้บางทีอาจจะไม่มีอะไรเยอะแค่ไหน แม้กระนั้นก็นับว่างานซีรีส์ประเทศเกาหลีเขาเก็บเนื้อหาได้ดิบได้ดีทุกเม็ดจริงๆเพราะเหตุว่าพวกเราจะรู้สึกละลานตาไปกับฉากร้านเสริมสวย Salon de Nabi ที่ถูกสร้างออกมาอย่างตั้งใจ ถึงจะเป็นเพียงแค่ฉาก แต่ว่าก็ลงดีเทลต่างๆได้ค่อนข้างจะละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือต่างๆในร้านเสริมสวย และก็อุปกรณ์ประจำช่าง ที่จัดว่าใส่เข้ามาได้น่าประทับใจ
สรุปในรูปภาพรวมแล้วนั้น Salon de Nabi เพิ่มฝัน ซาลอนรัก ถือได้ว่าซีรีส์ที่ได้ผลลัพธ์ที่ออกจะเซอร์ไพรส์ รวมทั้งดีมากยิ่งกว่าที่คิดเอาไว้ ถึงแม้ว่าซีรีส์จะมากับส่วนประกอบแล้วก็พล็อตแบบสูตรสำเร็จที่มิได้สร้างความแปลกใหม่อะไรเท่าใด แม้กระนั้นมีความแข็งแรงในชั้นโครงงานของค้างแรกเตอร์นักแสดงทุกตัวที่รอเป็นตัวเชื่อมเรื่องราวที่ทำให้เชิญติดตามไปตลอดทั้งเรื่อง รวมทั้งจำต้องยกนิ้วให้เลยว่าเป็นการบริหารจัดแจงนักแสดงได้ออกจะดีทีเดียว
หากว่าซีรีส์หัวข้อนี้จะมีกลิ่นความเป็นซีรีส์ทางประเทศญี่ปุ่นไปสักนิด ถึงกระนั้นก็ยังคงไม่ทิ้งเสน่ห์และก็ท่าทางแบบซีรีส์ประเทศเกาหลีไปไหน เปลี่ยนเป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างจะมีมิติในผู้แสดงที่เข้มข้น รวมกับหลักสูตรแล้วก็ศาสตร์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องวิชาชีพช่างเสริมสวย นี่ก็เลยแปลงเป็นละครที่เต็มไปด้วยความสาระวิชาความรู้และก็ความรู้สึกนึกคิดในลักษณะของคนทำงานบริการอาชีพหนึ่งที่เน้นย้ำหลักเป็นอีกหนึ่งงานหัตถกรรมจะต้องใช้ความถนัดความรู้ความเข้าใจอย่างน่ายกยอ
เพราะฉะนั้น Salon de Nabi เพิ่มฝัน ซาลอนรัก ซีรีย์เอเชีย ก็เลยเปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ประเทศเกาหลีที่อยู่นอกสายตาคนจำนวนไม่น้อย ที่พวกเราต้องการจะชี้แนะให้มองกัน เนื่องจากว่านี่เป็นซีรีส์ 16 เวลาที่มองได้เพลิดเพลินๆรวมทั้งได้ทำความเข้าใจในเรื่องราวที่ไม่รู้จักเกี่ยวกับแวดวงแต่งหน้า เป็นซีรีส์ที่ละมุนและก็อบอุ่น พร้อมด้วยรสการปลดแอกนานัปการต่างๆของผู้คนปกติได้ดิบได้ดี ไปพบมองกันได้ที่ Prime Video
Cherry Magic The Movie
รายละเอียดในฉบับภาพยนตร์จะเล่าราวภายหลังที่อาดาจิรวมทั้งลุกโรซาวะดำรงชีวิตด้วยกันมาได้ครู่หนึ่ง ชีวิตของพวกเขาดำเนินไปอย่างสุขสบาย จนกระทั่งวันหนึ่ง อาดาจิได้รับการเลื่อนขั้นใหม่ ดูหนังฟรี แม้กระนั้นเขากลับจำเป็นต้องย้ายไปดำเนินงานนางาซากิ ก็เลยทำให้ทั้งสองจำเป็นต้องไกลห่างกันถึง 1,200 กิโล เรื่องราวความรักระยะไกลที่จะมาพิสูจน์ความเชื่อมโยงของเขาทั้งคู่คนก็เลยเริ่มขึ้นภาพยนตร์จะได้ ฮิโรกิ ค้างซามะ ผู้กำกับจาก Cherry Magic
ฉบับซีรีส์กลับมารับหน้าที่สืบต่อเรื่องราวในคราวนี้ และก็ ริโกะ ซาค้างกุจิ จาก After the Rain (2018) มารับหน้าที่เขียนบท พร้อมกับสองดาราชายหนุ่มอย่าง เอย์จิ อากะโสะ และก็ เคตะ มาจิดะ ที่จะกลับสวมบทเป็น อาดาจิ แล้วก็ ระอุโรซาวะ อีกทีซีรีส์วายจากประเทศญี่ปุ่นยอดนิยมCherry Magic นับว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์วายจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับคำชื่นชมจากแฟนคลับอย่างล้นหลาม กระทั่งซีรีส์สามารถก้าวขึ้นสู่ชั้น 1 บน ORICON Drama Satisfaction Survey Ranking ช้านาน 5 อาทิตย์ต่อเนื่องกัน
พร้อมปัดกวาดรางวัลมาแล้วหลายเวที ตัวอย่างเช่น รางวัล และก็ ดาราหนังสมทบชายเยี่ยม (เคตะ มาจิดะ) จาก ครั้งที่ 106 รวมทั้งเป็นซีรีส์ที่ยอดทิวทัศน์สูงสุดของมาร่วมเป็นอันมากจิตใจให้กับสองชายหนุ่ม เอย์จิ อากะโสะ และก็ เคตะ มาจิดะ ในรูปภาพยนตร์โรแมนติกสุดฟินที่แฟนคลับนึกถึงกับ Cherry Magic The Movie ถ้าหาก 30 ยังสิงจะมีพลังดีเลิศยอดนิยมอย่างยิ่ง ในประเทศประเทศญี่ปุ่น (รวมทั้งบ้านพวกเรา) กับ Cherry Magic! หรือในชื่อภาษาไทยว่า เชอร์รีเมจิก ถ้าหาก 30 ยังสิง
จะมีพลังดีเลิศ ซึ่งลงทางสตรีมมิ่ง WeTV โดยการ “คัมกางค” กลับมาคราวนี้ ทั้งคู่ตัวนำอย่างคิโยชิ อาดาจิ รวมทั้งยูอิจิ ปะทุโรซาวะ กำลังจำต้องพบเจอบททดลองชีวิตบทใหม่Cherry Magic! ได้ผลการงานเขียนของ อำเภอ ยู โทโยตะ ก่อนที่จะได้รับการดัดแปลงแก้ไขมาได้ผลงานซีรีส์ความยาว 12 ตอน แล้วก็มีตอนพิเศษอีก 3 ตอน เป็นงานดูแลของฮิโรกิ ค้างซามะ โดยเริ่มต้นนั้นผลงานประเด็นนี้นับได้ว่าเป็นซีรีส์สเกลเล็กๆออกฉายทาง TV Tokyo ในตอนสล็อตในเวลาที่เรียกว่า
ซึ่งในเวลาที่กระจายเสียง ก็ไม่ใช่ในขณะที่จะมีคนมารอดู ซีรีย์เอเชีย เนื่องจากมันออนแอร์ตอนหนึ่งนาฬิกาวันพฤหัสบดี แต่ว่าด้วยเรื่องราวที่น่าประทับใจแล้วก็ทุกคนเข้าถึงได้ ก็เลยทำให้เรื่องราวของสองผู้แสดงนี้เข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้ชม จนถึงทำให้มีการเกิดกระแสปากต่อปาก รวมทั้งทำให้มันได้รับการกล่าวถึงจนกระทั่งเวลานี้เรื่องราวในซีรีส์เล่าถึงอาดาจิ บุคลากรที่ทำงานบริษัทอุปกรณ์การเรียนในวัย 30 ปี เขาเป็นคนไม่ค่อยมีความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเอง
อยู่กับความนึกคิดของตนเอง และไม่เคยเปิดประตูหัวใจให้กับคนไหนกัน หัวข้อการเดินไปจีบคนอื่นๆก่อนนี่พูดได้ว่าปิดประตูตายได้เลย ด้วยนิสัยไม่เปิดตัวทำให้อาดาจิ มีเพื่อนสนิทเป็นซึเกะ นักเขียนนวนิยายที่ชอบรอให้คำแนะนำเรื่องปัญหาชีวิตกับอาดาจิอยู่ตลอด และก็เขาก็บอกชวนขันว่า หากอาดาจิอายุเข้าเลข 3 แต่ว่ายังไม่มีคู่รวมทั้งสิงอยู่ เขาจะแปลงเป็นคนมีพลังพิเศษขึ้นมา
เมื่อวันเกิดอายุ 30 มาถึง ในรุ่งเช้าวันนั้นเองเมื่ออาดาจิขึ้นลิฟต์ที่ยัดทะนานหนาแน่นไปด้วยเหล่าบุคลากรที่ทำงาน เขาเริ่มได้ยินเสียงความนึกคิดของบุคคลอื่นดังขึ้นเรื่อยๆ โน่นทำให้เขาตระหนกตกใจรวมทั้งทราบว่าตนเองมีความรู้และความเข้าใจสำหรับการอ่านใจและก็ล่วงรู้ความนึกคิดของผู้ที่เขาสัมผัสตัว และก็ด้วยพลังยอดเยี่ยมนี้เองทำให้เขาเผลอไปรับทราบว่า ลุกโรซาว่า ชายหนุ่มหล่อผู้เป็นเป้าหมายปองของผู้หญิงผู้ทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายเซลล์แอบหลงเสน่ห์อาดาจิอยู่
แถมไม่ใช่ถูกใจแบบปกติด้วย แม้กระนั้นอยู่เลเวลบ้ารักจนกระทั่งตัวอาดาจิเองก็แอบสะดุ้งว่า บุคคลภายนอกสายตาและก็คิดว่าเขาเป็นเทวดาจะมาหลงรักชายหนุ่มเห่ยๆแบบเขาด้วยพลังยอดเยี่ยมที่อาดาจิมี ทำให้เขาเข้าสนิทติดใกล้กับทางปะทุโรซาว่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นำมาซึ่งการทำให้อาดาจิเองได้ได้โอกาสปรับปรุงตนเองอีกทั้งความรู้ความเข้าใจสำหรับการปฏิบัติงาน การเริ่มเปิดใจทำในสิ่งที่ตัวเราเองไม่เคยมั่นใจว่ามั่นว่าจะทำเป็น รวมถึงยอมที่จะให้ระอุโรซาว่าได้เข้ามาในชีวิตของเขา
จากเพียงแค่เพื่อนพ้องร่วมสวย สู่ฐานะของคนรู้ใจในเวลาถัดมาในเวอร์ชั่นซีรีส์พวกเราจะได้วิวัฒนาการของนักแสดงอย่างอาดาจิ ที่ไม่เคยมีความเด็ดเดี่ยวในชีวิต จนกระทั่งจะกล่าวความรู้สึกของตน สิ่งที่ไม่โอเคระหว่างรูปแบบการทำงานของเขากับสหายร่วมงาน เขาก็ไม่เคยบอก ทุกๆอย่างในชีวิตเป็นการยินยอมอีกข้างอยู่เป็นประจำ แต่ว่าเมื่ออาดาจิได้ก้าวผ่านผ่านความหวาดกลัวของตน เขาก็ได้รู้เรื่องว่าเรื่องบางหัวข้อนั้นก็จำต้องกระทำตามความรู้สึกรวมทั้งประพฤติตามหัวใจของตน
และก็ในส่วนท้ายของซีรีส์พวกเราบางทีอาจจะศึกษาและทำการค้นพบว่าพลังพิเศษของอาดาจิได้หายไปแล้วเป็นระเบียบ แลกเปลี่ยนมาพร้อมกับความเกี่ยวข้องอันงามระหว่างเขากับระอุโรซาว่าความรักของ LQBTQ+ ในประเทศญี่ปุ่นในเวอร์ชั่นภาพยนตร์เป็นการนำผู้ชมไปตรวจสอบเรื่องราวความเกี่ยวข้องระหว่างผู้แสดงทั้งคู่ ว่าจะกำเนิดอะไรขึ้น ในวันที่อาดาจิไม่มีพลังสำหรับการอ่านใจ และก็เขาจำต้องย้ายไปดำเนินงานในพื้นที่ไกลห่างแบบทันที
โน่นทำให้เขาจำเป็นต้องห่างจากปะทุโรซาว่า ซีรีย์เอเชีย ความรุ่งเรืองในอาชีพงานการเป็นอนาคตที่อาดาจิต้องการ แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันเขาก็ต้องรักษาความเกี่ยวข้องระยะไกลพร้อมเพียงกันบททดลองแรกบางครั้งก็อาจจะยังไม่ท้าพอๆกับในวันที่ทั้งสองฝ่าย ตกลงใจที่จะพาคู่ ของตนเองไปชี้แนะให้กับที่บ้านของพวกเขาได้ทราบจะ ในฐานะแฟน ดูเหมือนกับว่าในแต่ละบ้าน ความยากสำหรับการจะมีผลให้ที่บ้านสารภาพ ในสิ่งที่พวกเขาเป็นก็เกิดเรื่องยากแล้ว แม้กระนั้นหนังก็เลือกปัญหาที่ยากกว่า เมื่อทั้งคู่คาดหมายว่าการเปิดประตูให้ที่บ้านทราบ จะส่งผลให้เกิดการสมรสในฐานะคู่ครอง
สำหรับที่หนักใจว่าไม่ทราบเรื่องหรือฐานรากเกี่ยวกับ Cherry Magic มาก่อน จะแอบกล่าวว่าคุณสามารถเข้ามามองได้เลย เพราะว่าในตอน 2-3 นาทีแรกของหนังนั้น จะมีการสอนพื้นฐานจากเวอร์ชั่นซีรีส์เป็นภาพ flash back มาปะติดปะต่อร้อยเรียงเรื่องราวแบบอย่างคร่าวๆให้กับผู้ชมอีกที เป็นองค์ประกอบที่พากเพียรจะเอามาเชื่อมโยงกับฉบับหนังหัวข้อนี้ ที่บางทีก็อาจจะเพียงแค่มาเป็นน้ำจิ้มหน่อยๆแต่ว่าก็เพียงพอจะสามารถสรุปให้คนไม่รู้เรื่องอะไรเลยได้มีพื้นฐานขึ้นมาอีกนิด
Plan 75 วันเลือกตาย
สถานะการณ์ในอนาคต เมื่อรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นได้บัญญัติกฎหมาย ‘Plan 75’ ที่จะเปิดให้ประชากรผู้สูงวัย 75 ปีขึ้นไป ได้สมัครสมาชิกเพื่ออ้อนวอนสำหรับในการฆ่าตนเอง พร้อมรับเงินทดแทนเป็นจำนวนเงิน 1 แสนเยน เพื่อหวังว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาจำนวนผู้สูงวัยที่มากจนถึงเกินจุดสมดุล ก็เลยส่งผลให้ ยาย (จิเอโกะ ไบโช) หญิงสูงวัยวัย 75 ปี ที่ยังคงดำเนินงานรวมทั้งดำเนินชีวิตอยู่คนเดียว เริ่มกำลังลังเลว่าคุณควรจะรับข้อเสนอนี้ของรัฐบาลไหม
โดยภาพยนตร์ได้รับเลือกให้เดินทางไปเข้าฉายในงาน 2022 Cannes Film Festival รวมทั้งได้รับเสียงยกย่องจากผู้ชมอย่างล้นหลาม โดยได้รับการยืนขึ้นตบมือ (Standing Ovation) ยาวนานกว่า 5 นาที รวมทั้ง จิเอะ ฮายากาวะ ก็ได้รับรางวัลพิเศษของ Caméra d’Or – Special Distinction หรือผู้กำกับคนใหม่ไปได้เสร็จ
เรื่องราวเหตุในอนาคตอันไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นบัญญัติกฎหมายอนุญาตให้สังหารคนแก่ อายุ 75 ปีขึ้นไปฟรี และมอบเงินทดแทนให้ด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาจำนวนผู้สูงวัยที่มากกระทั่งเกินจุดสมดุลในสังคมคนแก่ ยายคนหนึ่ง กำลังลังเลว่าคุณควรจะรับข้อเสนอนี้ของรัฐบาลดีไหม แล้วก็จะจัดแจงกับชีวิตในตอนตอนปลายชีวิตที่แสนอ้างว้างแบบนี้เช่นไรถัดไป
ดราม่าเรื่องยอดเยี่ยมที่จับใจความสำคัญสังคมคนวัยแก่ในประเทศญี่ปุ่นมาถ่ายทอดนี่เป็นผลงานการควบคุมของนักสร้างภาพยนตร์หญิงไฟแรง “ฮายากาวะ จิเอะ” ที่กำลังโดนจับตามองอยู่ไม่น้อย ซีรีย์เอเชีย ในประเด็นนี้คุณได้จับเอาบทความจากแนวความคิดของ “เจสัน เกรย์” ผู้เชี่ยวชาญอยู่ในแวดวงหนังประเทศญี่ปุ่น มาดัดแปลงรวมทั้งแปลความหมายออกมาเป็นบทหนังที่คุณเรียบเรียงด้วยตัวเอง บนฐานรากของโลกสมมุติในอนาคตที่บางทีก็อาจจะอ้างอิงถึงโลกในชีวิตในปัจจุบันนี้ อยู่บ้าง
กับสภาวะไปสู่สังคมคนสูงอายุอย่างเต็มรูปแบบของประเทศญี่ปุ่น ที่ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ประเทศญี่ปุ่นจึงควรประจันหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างไม่ต้องสงสัยเพียงแค่แนวความคิดและก็คอนเซ็ปต์ของหนังก็จัดว่าซื้อใจผู้ชมไปได้เต็มๆแล้ว ปัญหาที่ท้าก็คือจะเล่าหนังออกมาเช่นไร ให้ประสมประสานออกมาเป็นดราม่าที่สะท้อนความนึกคิดและไม่ใช่หนังที่ฟูมฟายเหลือเกิน แล้วก็ผู้กำกับหญิงรายนี้เลือกแนวทางสำหรับในการเล่าทางมุมมองของผู้แสดงต่างๆในสถานะการณ์เดียวกัน
เป็นแถวคิดเชิงทับซ้อนที่พอดีได้อย่างงดงาม จากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งได้อย่างกลมกล่อมละมุนละไม แล้วก็เปลี่ยนออกมาเป็นหนังที่ทำให้ผู้ชมได้ขบคิดตามไปด้วยตลอดระยะเวลา กับปัญหาว่าที่ว่า “หากถึง Plan 75 จะมีโทนการเล่าเรื่องที่นุ่มลึกและก็ออกจะนิ่งๆไปตลอดทั้งเรื่อง แต่ว่าก็สามารถทำให้ผู้ชมจ้องติดตามการเคลื่อนไหวและก็วิวัฒนาการแนวความคิดของทุกนักแสดงได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวันของคนวัยชรา ที่พวกเขาต่างแก่เฒ่าลงวันแล้ววันเล่า และไม่ต้องการจะเป็นภาระหน้าที่ให้กับผู้ใด แม้กระนั้นเพราะเหตุว่าความโรยราของร่างกาย บางคราวก็เป็นปัญหาต่อการดำเนินชีวิต
หรือจะเป็นมุมมองของเจ้าหน้าที่รัฐที่ดูแลแนวทางนี้ ที่แม้ว่าจะแบกรับหน้าที่มาก่อนเรื่องเฉพาะบุคคล แต่ว่าพวกเขาก็ยังคงมีความเป็นคนซ่อนอยู่ในตัวทุกคนหนังเปิดเรื่องมาได้น่าดึงดูดทีเดียว ด้วยการชี้ถึงเรื่องสะเทือนใจที่เกิดขึ้น ตลอดด้วยข่าวสารของข้อบังคับใหม่ที่เมืองประยุกต์ใช้เพื่อขจัดปัญหาท่ามกลางการแย้งที่ยังมิได้ข้อสรุป หลังจากนั้นก็เล่าถึงชีวิตต่างๆในสังคมคนชรา ตอนหนึ่ง พวกเราบางทีอาจเชื่อฟังว่า คนวัยชราบางบุคคลบางทีอาจจำต้องผจญกับชีวิตที่เหงาหงอยแล้วก็ถึงทางตัน จนถึงบางทีอาจรู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะต้องไป ในขณะที่อีกช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
พวกเราบางทีอาจฉุกคิดว่า สังคมกำลังบีบและก็สนับสนุนคนชราให้เห็นด้วยการเลือกตายอยู่หรือไม่ถึงแม้ตัวหนังจะเดินไปอย่างเรียบเรื่อยๆมาตลอดเรื่อง ก่อนที่จะมีอะไรน่าดึงดูดในช่วงท้ายของเรื่อง ซีรีย์เอเชีย แต่ว่ามันก็เป็นหนังที่ไม่แนะนำอะไรเท่าไรนัก เรื่องราวในนั้นชี้ความว้าเหว่และก็ว้าเหว่ของคนชราใกล้ตายได้อย่างดีเยี่ยม ดูหนังแล้วคิดต่อเอาเองว่า มาตรการนี้ควรจะมีไหมจะต้องมี? แล้วก็หากว่ามี เมื่อพวกเราแก่ถึงวันนั้น พวกเราจะเลือกร่วมมั้ย
หนังทำออกมาก้าวหน้ามากมายPlan 75 ถือได้ว่าหนังที่มีปัญหากระจ่างแจ้งมากมายก่ายกอง เด่นชัดว่าอยากติดต่อไปในแนวทางใดและก็สะท้อนแนวทางนั้นๆออกมาได้ออกจะชัดแจ้ง ถึงแม้ว่าการมีหลายผู้แสดงให้จุดโฟกัสนั้นบางครั้งอาจจะไม่สามารถที่จะครอบคลุมเนื้อหาได้ทั้งผองก็ตาม แม้กระนั้นจำต้องเห็นด้วยว่าฉากเปิดของหนังประเด็นนี้เป็นอะไรที่น่าแปลกใจรวมทั้งเศร้าโศกอยู่ไม่น้อย ซึ่งกระนั้นก็จำเป็นต้องเคารพนับถือมุมมองและก็แนวความคิดของผู้กำกับที่ต้องการจะสื่อถึงผู้ชมได้
อย่างไม่อ้อมค้อมตั้งแต่นาทีแรก มันเป็นฉากที่ได้ผลลัพธ์ของหนังอีกทั้งเรื่องทั้งผองเลยก็ว่าได้แล้วก็การที่หนังได้ดาราอาวุโส “จิเอโกะ ไบโซะ” มาแบกรับบทนำอีกทั้งเรื่องในวัย 80 ปีของคุณ ก็ถือได้ว่าเป็นการมอบโอกาสแล้วก็ปลดปล่อยให้คุณได้โชว์สมรรถนะทางการแสดงของแท้ออกมาอีกรอบ นี่เป็นดาราหนังรุ่นเก๋าที่ชำนาญในแวดวงหรรษาประเทศญี่ปุ่นมานานถึง 6 ทศวรรษ กับงานแสดงที่น่าจะเป็นร้อยกว่าเรื่อง คุณสามารถหามหนังอีกทั้งเรื่องเอาไว้ได้ด้วยการแสดงกล้วยๆรวมทั้งทรงอำนาจ ไม่ใช่แค่เพียงแต่ผ่านบทสำหรับพูด แม้กระนั้นอินเนอร์แล้วก็ท่าทีต่างๆออกมาได้อย่างถ่องแท้ในทุกส่วนประกอบ
หนังประเด็นนี้ก็เลยแปลงเป็นการกลับมาเป็นนางเอกหนังอีก amitierencontre ทีในรอบนับเป็นเวลาหลายปีของคุณในขณะที่ดาราอาวุโสอีกผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่มาสมทบในหัวข้อนี้ก็นับว่าเข้ามาเสริมส่วนประกอบทำให้หนังมองแข็งแรงและก็ตอบปัญหาหนังให้แข็งแรงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ติดอยู่ซุโยชิ คูชิดะ” ที่นับว่าให้การแสดงแบบน้อยแต่ว่ามากมาย มาไม่มากมายแม้กระนั้นค่อนข้างจะทรงอำนาจ ส่วนดาราแบบใหม่ อย่าง “ฮายาโตะ อิโซมุระ” หรือ “ยูไม่ คาวะอิ” หน้าที่บางทีก็อาจจะมิได้มีแก่นลึกมากเท่าไรนัก แม้กระนั้นก็เป็นส่วนเสริมที่สำคัญ เหมือนกันกับ “สเตฟานี่ อาริแอนน์”
ในบทผู้ลี้ภัยชาวประเทศฟิลิปปินส์ ที่เสมือนจะไม่มีอะไร แม้กระนั้นนักแสดงนี้กลับเต็มไปด้วยมิติที่เสริมหนังหัวข้อนี้ขึ้นมาก้าวหน้าอีกนักแสดงหนึ่งจากหนังสั้นสู่ภาพยนตร์จากเดิมที่เคยเป็นหนังสั้น 1 ใน 5 เรื่องที่ถูกผูกรวมในชื่อ ‘Ten Years Japan’ หนังเมื่อปี 2018 ถูกจับจับมาขยายเป็นหนังยาวชื่อเดียวกันโดยผู้กำกับคนเดิม จิเอะ ฮายาคาวะ และก็ได้ ฮิโรคาสุ วัวเรเอดะ มาเป็นโปรดิวเวอร์ควบคุมดูแลโปรเจกต์นี้ สาเหตุของหนังมันเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเรื่องที่ชายคนหนึ่งก่อเหตุสุดสะเทือนใจ ฆ่าคนวัยชราที่ช่วยเหลือตัวเองมิได้ในสถานที่ดูแลคนวัยชราไป 19 คน รวมทั้งเจ็บอีกกว่า 40 คน
เนื่องจากว่าคิดว่าคนกลุ่มนี้เป็นภาระหน้าที่ของสังคม ซีรีย์เอเชีย ความโมโหแและความรู้สึกไม่สบายใจของผู้กำกับหญิงคนนี้ส่งเสริมให้เกิดแนวคิดสำหรับการสร้างภาพยนตร์ประเด็นนี้ขึ้นเมื่อดูหนังจบ รู้สึกได้เลยว่า มันเป็นการถามเป็นการมีอยู่ของมาตรการที่เปิดให้คนวัยชรา ‘เลือกวันตายของตนเองได้’ ว่าสิ่งพวกนี้สมควรแล้วก็เหมาะสมสักเพียงใดหนังหัวข้อนี้ มิได้เล่าเพียงแค่เรื่องของหญิงสูงอายุที่ใคร่ครวญว่าตนเองควรที่จะเลือกตายดีไหมดี แม้กระนั้นก็ยังเล่าถึงชีวิตของวัยรุ่นบริเวณแวดล้อมพวกเขาอยู่ด้วย
พวกเราก็เลยได้เจอกับดาราอย่าง Hayato Isomura/ฮายาโตะ อิโซมุระ (จากซีรีส์เรื่อง ‘อลิสในดินแดนมรณะ’ และก็หนังเรื่อง ‘What Did You Eat Yesterday?’) ที่สวมบทข้าราชการรับสมัครร่วมโครงงาน รวมทั้ง Yumi Kawai/ยูไม่ คาวาอิ (จากหนังเรื่อง ‘It’s a Summer Film!’) ที่มาเล่นบทบุคลากรผู้ช่วยให้คำแนะนำกับผู้เข้าร่วมแผนการ แล้วหลังจากนั้นก็ยังมี Stefanie Arianne/สเตฟานี อาริอาน ดาราลูกครึ่ง ประเทศญี่ปุ่น-ประเทศฟิลิปปินส์ มารับบท มาเรีย แรงงานต่างประเทศผู้ทำงานกวาดข้าวของเครื่องใช้ของผู้สมัครใจไม่ดีชีวิตในโครงงานด้วย
