[รีวิวหนัง] FRIEND ZONE ระวัง….สิ้นสุดทางเพื่อน หนังสำหรับคนชอบเพื่อนก็งี้ดีต่อใจ
รีวิว FRIEND ZONE เกิดเรื่องราวของเพื่อนเกลอคู่หนึ่งคือปาล์มรวมทั้งกิ๊งที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตอนมัธยม โดยปาล์มดูแลกิ๊งมาตลอด 10 ปี โดยกิ๊งไม่เคยรู้เลยว่าที่จริงแล้วปาล์มนั้นไม่ได้คิดกับเธอเพียงแค่เพื่อนฝูง เพียงแค่ต้องการจะจีบกิ๊งเสมือนเพศหญิงผู้อื่นโดยเข้าหาทางเพื่อนพ้องแค่นั้น แม้กระนั้นขำขันร้ายปาล์มได้ชอบกิ๊งจริง ๆ กระทั่งมาถึงในช่วงเวลานี้ กลางทางทั้งสองก็ต่างมีคู่รักกัน แม้กระนั้นปาล์มก็ยังคอยเจ็บทุกครั้งที่กิ๊งเพื่อนเกลอของเขามีแฟน ปาล์มถึงแม้ว่ามีหญิงมากมายนับไม่ถ้วนก็ไม่เคยรักคนไหนได้เท่ากิ๊งสักคน กิ๊งเองก็มิได้โชคดีมากเท่าไรนัก คุณชอบพบกับความรักที่ทำให้จะต้องเสียหยดน้ำตาตลอด แต่ว่าเมื่อไหร่ที่สาวกิ๊งเศร้าใจเนี่ย ปาล์มเพื่อนรักของเขาก็จะโผล่มาดูแลทุกครั้ง เป็นอย่างนี้แล้วกิ๊งจะใจอ่อนกับปาล์มบ้างหรือไม่ หรืออยากผ่านเส้นคู่หูนี้พัฒนาความเกี่ยวพันไปสถานะอื่นหรือไม่ จะเป็นเยี่ยงไรจำต้องไปหาดูต่อเองนะค
Frirend Zone ระวัง…จบทางเพื่อนพ้อง เป็นหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ จากบริษัทภาพยนตร์ร่าเริงแจ่มใส GDH ที่ได้ฉายทางโรงหนังไปเมื่อวันวาเลนไทน์ ปี 2019 จนถึงวันนี้ผมได้ได้โอกาสได้กลับมาดูหนังเรื่องนี้อีกรอบ แม้ว่าจะเป็นการมองรอบที่ 2 ของผม แม้กระนั้นตัวหนังก็ยังคงความสนุกสนานร่าเริง มุกที่ดูแล้วก็ขำอยู่ดังเดิม ตัวของหนังเองที่แอบกล่าวหาดราม่าเล็ก ๆ ลงไป แม้จะยังไม่สุดพอเพียงจนทำให้เราร้องไห้ได้แต่ว่าก็เป็นหนังที่ทำให้ท่านยิ้มได้เมื่อดูจบเรื่องราวของหนังจะเล่าถึง “กิ๊ง” กับ “ปาล์ม” ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยม โดยวันหนึ่งกิ๊งได้แอบสะกดรอยตามบิดาของเธอไปก็เลยพบว่าบิดาของคุณแอบไปมีกิ๊ก กิ๊งเสียใจมากมายแม้กระนั้นก็มีปาล์มรออยู่ข้าง ๆ และปลอบโยนตลอด
จนกระทั่งทั้งคู่เกือบที่จะได้ขยับความเกี่ยวพันกันแล้ว ถึงแม้ลึก ๆ ในใจของปาล์มอยากบอกรักกิ๊ง แม้กระนั้นปาล์มกลับบอกเธอไปว่าคิดกับคุณแค่เพื่อนพ้องเท่านั้น วันเวลาผ่านไปไม่ว่ากิ๊งจะคบกับเพศชายผู้ใดกัน เวลามีปัญหาก็จะเป็นปาล์มที่อยู่ข้างกิ๊งเสมอ รวมทั้งยังจะต้องไปช่วยตามดูแลเธอ สำหรับเพื่อการแอบสะกดรอยตามแฟนของกิ๊ง “พี่เท็ด” ว่าพี่เท็ดได้นอกใจกิ๊งหรือเปล่าอีกด้วย ตกลงว่าปาล์มเป็นทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างให้กิ๊งหมดแล้วที่ไม่ได้เป็นสิ่งเดียวคือแฟนนั่นเอง นี่เป็นเรื่องราวคร่าว ๆ ของเด็กหนุ่มผู้อยู่ใน Friend Zone มาอย่างช้านานโดยเล่าผ่านการคุยกันของแก๊งหนุ่มในงานมงคลสมรส ผู้ถูก Friend Zone ด้วย
ด้วยเหมือนกันหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สามารถทำให้พวกเรายิ้มและ หัวเราะ ไปกับหนังได้แทบตลอดทั้งเรื่องด้วยมุกที่ใส่เข้ามาในเรื่องแบบพอดีเป๊ะ เคมีที่เข้ากันของสองพระ-นาง ที่ทำให้เราแอบยิ้มตามไปด้วย บทหนังที่เล่าออกมาได้มีกลเม็ดเด็ดพราย การตัดต่อที่ดูแล้วทำให้พวกเราไม่รู้จักสึกเบื่อไปกับมัน ทั้งยังยังเล่าเกี่ยวกับเฟรนด์โซน โซนที่เฟรนด์ทุกคนยากที่จะข้าม ทำให้หนังหัวข้อนี้บางครั้งก็อาจจะโดนใจคนอีกจำนวนไม่น้อยที่มีประสบการณ์แบบเดียวกันในส่วนของพาร์ทดราม่า ตัวของผู้แสดงเองแสดงซีนอารมณ์ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม จนทำให้เรารู้สึกอินไปกับนักแสดงได้ แม้จะบทของหนังจะยังไปไม่สุดด้านดราม่า แต่ว่าด้านโรแมนติก-คอมเมดี้ ถือว่าทำออกมาได้เป็นอย่างดี ทำให้พวกเราไม่รู้จักสึกเบื่อเลยในตอนที่ชมภาพยนตร์อยู่
การปูทางของเรื่องตั้งแต่ต้นมาก็บ่งบอกถึงอยู่ว่ากิ๊งนั้นผิดหวังกับเงื่อนความรัก
ตั้งแต่ทราบว่าบิดาของคุณแอบซ่อนเมียน้อยไว้แล้ว และก็แสดงให้เห็นว่ากิ๊งกับปาล์มเป็นเพื่อนสนิทกันแบบสนิทมากมายจริง ๆ เป็นเรื่องยากมากที่คู่หูกันจริง ๆ จะมาหันมาชอบเพื่อนเกลอของตัวเองที่อยู่ด้วยกันมานานขนาดนี้ แต่ค่ายก็ไม่ได้ข้ามเนื้อหาในเรื่องนี้ไป เนื่องจากเราจะมีความคิดเห็นว่าปาล์มนั้นชอบกิ๊งมาตั้งนานแล้วแต่เพียงต้องการจะทำความรู้จักกันในแบบสหายโดยให้กิ๊งเป็นเพื่อนก่อนจะได้เข้าพบได้ แต่ชะตากรรมเล่นตลกดันมาเป็นเพื่อนกันจริง ๆ ซะงั้น
นี่ก็เลยเป็นเหตุผลที่ภาพยนตร์สื่อว่าเพราะอะไรปาล์มถึงถูกใจเพื่อนซี้มาตลอด มิได้มาชอบคราวหน้า แต่ถูกใจมาก่อนจะเป็นเพื่อนกันแล้วความรู้สึกภายหลังจากการดูของนักเขียนคะแนนเต็ม 10 ขอให้ 8 ค่ะ เหตุผลที่หักไปมีความคิดว่าภาพยนตร์ยังลืมเนื้อหาของภาพยนตร์ไปนิดหนึ่ง เรื่องแรกคือเงื่อนของบิดากิ๊งที่หลังจากทราบว่าพ่อมีภรรยาน้อยจากนั้นจะจัดแจงยังไงต่อมันหายไป ด้วยเหตุว่าต่อไปเสร็จปุ้ปก็มีเพียงแค่ฉากนางเอกอยู่ตามลำพังแล้วก็ดำเนินเนื้อเรื่องไปกับผู้แสดงนำชายจนถึงจบ
สองเรื่องเพศหญิงของปาล์ม ไม่มีฉากที่จัดการกับเพศหญิงของตัวเองเลย เพราะว่าขณะนั้นกิ๊งก็เสมือนจะเปิดใจแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงของปาล์มสถานที่สำหรับทำงานเป็นแอร์ จริง ๆ บางทีอาจไม่จำเป็นที่ต้องใส่เข้ามาในฉากก็ได้แหละ แต่เรามีความคิดว่าหากเอาฉากนั้นใส่เข้ามาภาพยนตร์จะมองบริบูรณ์ขึ้นกว่านี้ส่วนเรื่องความตรึงใจที่มีต่อภาพยนตร์ประเด็นนี้เราถูกใจการแสดงของผู้แสดงหัวข้อนี้มาก เก่งทุกคน และก็แสดงเป็นธรรมชาติค่ะ ชื่นชมสมกับที่ค่าย GDH เลือกมา
มีการนำเพลงคิดมากของปาล์มมี่มาใช้โดยนำเอานักร้องแต่ละประเทศมาแบ่งท่อนกันร้อง ทำให้เพลงของปาล์มมี่นั้นดูดีขึ้นไปอีก มีฉากแทรกมุขตลกมาด้วยนิดนึง ตอนแรกรู้สึกว่าจะโบ๊ะบ๊ะกว่านี้ แต่ไม่เป็นไรยังนับว่าเป็นเรื่องที่น่าประทับใจอยู่จ้ะ ผู้ที่อยู่ในสถานการ์ณหลงเสน่ห์เพื่อนฝูงคงจะชอบกัน แถมกระแสเรื่องนี้ก็ถือว่าวัยรุ่นให้ความสนใจกันมากมายก่ายกองอีกด้วย รวม ๆ รวมทั้งถูกใจน้าากับการรีวิวภาพยนตร์ของค่าย GDH เรื่อง Friend Zone ระวัง…สิ้นสุดทางเพื่อนพ้อง ถ้าหากคนใดกันถูกใจ
ก็สามารถไปตามดูกันได้ทาง True ID นะคะ ผู้ใดกำลังหลงเสน่ห์สหาย แอบชอบสหายอยู่ ห้ามพลาดค่ะ เนื้อเรื่องมีอีกทั้งขำขัน โรแมนติก ดราม่า มีเกือบครบทั้งหมดทั้งปวงจริง ๆ แม้คนใดโคนงการดีดตามดูหนังเรื่องใหม่ก็สามารถมาติดตามผู้เขียนได้นะคะ เพราะผู้เขียนจะมารีวิวภาพยนตร์เรื่องใหม่ ๆ รวมทั้งอีกทั้งเรื่องเก่าด้วยอีกเยอะมากค่ะ สำหรับวันนี้คนเขียนก็ขอตัวลาไปก่อน แล้วเจอะกันในบทความหน้านะคะ
หน้าหนังยังคงมาในสไตล์โรแมนติก-คอมมีดี้ แนวถนัดของ GDH
แต่เมื่อได้ชมกับมีความรู้สึกว่าชีวิตรักของผู้แสดงหลักทั้งปาล์ม แล้วก็ กิ๊ง กลับมิได้ดำเนินมาบนทางที่เจอกับความสุขหอมหวานเลยค่ะ ตรงกันข้ามกลับเต็มไปด้วยน้ำตา บทกิ๊งของใบเฟิร์น ร้องไห้แทบจะอีกทั้งเรื่อง เริ่มตั้งแต่จับได้ว่าพ่อแอบมีภรรยาน้อย รู้สึกเสียเวลาเปล่า ๆ เขิน ๆ เมื่อปาล์มเปิดเผยความรู้สึกกับกิ๊งว่าเป็นแค่สหายตั้งแต่ในวัยมัธยม คบกับแฟนรุ่นพี่มา 10 ปีก็ไปมีกิ๊ก จนกว่ามาคบกับพี่เท็ด บทของเจสัน ยัง ก็เป็นความรักที่ดำเนิน ไปบนความหวาดระแวง
กังวลตลอดเวลาว่าพี่เท็ดจะนอกใจ ต้องตามสืบอยู่ตลอดเวลา ส่วนปาล์มก็เปลี่ยนเป็นสจ๊วตมีเสน่ห์ มีผู้หญิงต่อเนื่อง แต่ก็มิได้เป็นสุขสมหวังสักคน เพราะว่าแม้กระทั้งปากจะบอกกับกิ๊งว่าเป็นเพื่อนแต่ว่าก็แอบชอบแอบหวัง อยู่เป็นประจำ เพียงแค่กิ๊งโทรศัพท์หาปาล์มก็รีบแจ้นไปหาทุกหนทุกแห่ง แม้จะอยู่เมืองนอกประหนึ่งว่าปัญหาถูกบังคับให้หนังจำเป็นจะต้องออกมาเป็นโรแมนติก-คอมมีดี้ ถึงแม้เนื้อหาบนชะตากรรมตัวละครจะเศร้าแค่ไหน หนังก็เลยแออัดมุกลงไปให้เกิดเสียงหัวเราะได้ทุก ๆ 5 นาที
หลายมุกทีเล่นกับเหตุการณ์ลำบากใจ ขวยเขิน ก็ได้ผลในด้านดี มุกที่มากับบทสนทนาเย้าแหย่จิกกัดก็ได้เสียงหัวเราะไปเสียทุกหน แต่บางมุกก็ฝ่าฝืนเหลือเกิน เสมือนมุกในละครค่ำ อย่างตอนปาล์มเอาช็อคโกแลตลาวามาทารอบปากแทนหนวดเคราเพื่อล้อเลียนพี่เท็ด มุกที่ปาล์มแต่งเนื้อร้องแซวกิ๊งใส่ท่วงทำนอง “คิดมาก” ก็มิได้รู้สึกขำตาม หรือมุกลิงซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ก็ดูแล้วเหมาะกับหนังตลกสไตล์โก๊ะตี๋-น้าค่อมมากยิ่งกว่านะ หากไม่ต้องมุ่งหน้าพยายามให้ขบขัน ลดระดับมุกต่าง ๆ ให้พอเพียงมีบ้าง
แล้วไปขยี้เรื่องราวดราม่าของปาล์ม – กิ๊ง คงจะพาไปถึงระดับน้ำตาแตกได้พอ ๆ กับ FANDAY เพราะว่าตลอดเรื่องคนดูก็ได้รู้จักตัวตนของปาล์ม-กิ๊งมาพอสมควร ต่างก็ลุ้นให้คู่นี้ได้ปริปากบอกความในใจกันพลาดท่า ลุ้นให้จบกันพลาดท่าซึ่งหนังก็เล่นกับเรื่องราวนี้พอเหมาะพอควร โดยยิ่งไปกว่านั้นฉากเปิดใจในห้องเช่าอพาร์เม้นท์ อีกทั้งใบเฟิร์นแล้วก็นายต่างก็ทำหน้าที่ก้าวหน้า กับฉากบีบคั้นเคร่งเคลียดทั้งยังบนหน้าจอทั้งยังในโรงที่ร่วมลุ้นว่าคู่นี้จะจบกันอีท่าไหน
สำหรับใบเฟิร์นนี่เก่งมากอยู่แล้วกับฉากอารมณ์แบบงี้ น้ำตาเหมือนสั่งได้เสมอ เป็นศิลปินสาวที่ร้องไห้แล้วดูน่าเห็นใจตลอด สำหรับนาย ที่งาม ที่เพิ่งจะรับงานแสดงเต็มกำลังเรื่องแรกแล้วจำเป็นต้องมาพบฉากอารมณ์แบบนี้ก็จัดว่าสอบได้ครับ แม้ว่าหลาย ๆ ฉากจะโดนใบเฟิร์นดึงความพอใจไปหมดหนังมีฉากที่เล่นกับอารมณ์ได้มากไม่น้อยเลยทีเดียว ฉากนัดหมายที่เจดีย์ชเวดากอง ฉากที่กิ๊งมาดักพบปาล์มบนทางจักรยาน แม้กระนั้นทั้งปวงก็มาได้ในระดับอึน ๆ ตึง ๆ ยังไม่ถึงขนาดสะกิดต่อมน้ำตาได้
หากผู้ผลิตไม่ต้องห่วงว่าหนังควรจะเป็นคอมมีดี้ แล้วจัดหนักกับฉากดราม่า เชื่อว่าองค์ประกอบของหนังที่ปูมาตั้งแต่ต้น กับความรักที่ไม่เจอะกันสักครั้งของทั้งสอง แล้วยิ่งเกิดเรื่องราวของเพื่อนรักเพื่อนที่เป็นประสบการณ์ใกล้ตัวหลายคน ยิ่งเกินพอที่จะพาให้ฉากดราม่านี่ถึงขั้นน้ำตาแตกได้อย่างง่าย ๆ แล้วหนังก็จะมีฉากจดจำได้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้การเล่าเรื่องก็นับว่าเล่าอย่างมีลูกเล่นชั้นเชิง ไมได้ดำเนินเรื่องแบบเส้นตรงแต่ถูกเล่าผ่านตัวปาล์มถึงชีวิตรักของเขารวมทั้งกิ๊งตั้งแต่อดีตกาลจนกระทั่งตอนนี้
มีการเล่าสลับไทม์ไลน์ไปมา แม้กระนั้นก็ไม่ได้ชวนมึนงง แถมมีลูกเล่นหักมุมตอนท้ายเล็ก ๆ กับบทสรุปความรักของทั้งคู่ สีสันอีกอย่างของหนังเป็นการใช้ประโยชน์จากอาชีพสจ๊วตของปาล์ม และการเดินสายบันทึกดนตรีนานาชาติของเท็ด เลยทำให้หนังออกแนวเยี่ยมเยือนประเทศเพื่อนบ้าน ก็เลยได้เห็นตัวละครบินไปบินมาในประเทศแถบนี้กันครบบริบรูณ์ พม่า ลาว เขมร เวียดนาม มาเลเซีย ฮ่องกง ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งทีมงานก็หามุมสวย ๆ ประเทศเพื่อนบ้านพวกนี้มาให้เราได้มองกัน
รวมไปถึงมุมงาม ๆ ในกระบี่ที่ดูแล้วก็ต้องการท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน หนังบางทีอาจจะเรื่อยเปื่อยยุ่ย ๆ ในชัวโมงแรก ที่เน้นหนักไปความกล้าหาญสะกดรอยตามพี่เท็ด ที่ควรมีปาล์มติดสอยแขวนไปด้วย แต่เพียงพอเข้าช่วงท้ายที่ปาล์มตัดสินใจก้าวข้ามกำแพงความเป็นเพื่อนไปแล้ว โทนหนังก็หนักขึ้นโดยทันที ยิ่งทำให้ผู้ชมจำต้องลุ้นหนักว่าบทหนังจะลงเอยแบบไหน จะใจดำหรือใจดีกับผู้แสดง
Friend Zone ก็ยังอยู่ในมาตรฐานของหนัง GDH และยังคงอยู่ในกลุ่มเดียวกับผลงานก่อนหน้าของผู้กำกับหมู ชยนพ ที่เคยกำกับ เมย์ไหน…ไฟแรงเฟร่อ , Suck Seed ห่วยขั้นเทพ ซึ่งมีมุกให้ได้หัวเราะพอขำ ๆ คิก ๆ ได้ทั้งเรื่อง รีวิว FRIEND ZONE แต่ก็ไม่มีมุกถึงขั้นฮาแรง ๆ ชวนจดจำ เช่นเดียวกับพาร์ทดราม่าของหนังที่ก็ไมได้พาไปถึงขั้นเสียน้ำตา เป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมงที่ได้ดูหนังที่มีภาพสวย ๆ เพลงเพราะ ได้สัมผัสเสน่ห์และความสามารถของใบเฟิร์น ที่ทำให้เราเดินยิ้มออกจากโรงได้ แม้จะไม่ได้เข้าคลาสเป็นหนังท็อป10 ของ GDH ก็ตาม