รีวิว ไทบ้าน เดอะซีรีส์

รีวิว ไทบ้าน เดอะซีรีส์

รีวิว ไทบ้าน เดอะซีรีส์ เมื่อหนังอีสานตีตลาดเมืองกรุง

รีวิว ไทบ้าน เดอะซีรีส์ บันเทิงใจเกินคาด ฮาจนกรามค้าง เดินเรื่องได้เฉลียวฉลาด เป็นเรื่องปกติสามัญที่ภาพยนตร์ดังฟอร์มยักา์ชอบทำเงินในโซนกรุงเทพมหานครหรือตามจังหวัดใหญ่ แล้วหลังจากนั้นหนังค่อยทำตลาดออกไปสู่ชนบท หากว่าได้รับกระแสดี แต่คำบอกเล่านี้จะใช้ไมไ่ด้ผลเลยกับภาพยนตร์ช่อ ไทบ้าน เดอะซีรี่ส์ เพราะมันเป็นภาพยนตร์จากดินแดนอีสานที่ทำตลาดสู่เมืองหลวง โดยใช้กลอุบายป่าล้อมเมือง จนถึงเป็นกระแสปากต่อปากและก็ทำรายได้กว่าร้อยล้านอย่างยิ่งจริง ๆ เหตุเป็นเช่นนั้นก็เนื่องจากว่ารูปแบบการนำเสนอที่แปลกใหม่ ชอบใจคนพื้นบ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพราะมันคือชีวิตจริงของพวกเขาไม่มีประดิษฐ์

ทั้งยังการดำเนินเรื่องก็น่าดึงดูดภายใต้ฉากหน้าหนังแบบบ้าน ๆ แต่ว่ามันจะคืออะไรนั้นมาดูรายละเอียดันดียิ่งกว่าครับไทบ้าน เดอะซีรี่ส์ จะเป็นเรื่องราวของหมู่บ้านโนนคูณในศรีษะเกษ ดำเนินเรื่องโดย นายสิบลอด ชายหนุ่มบ้านนาประหม่าที่ยังคงสถานะไม่มีแฟนตลอดชีพกับ เซียง เพื่อนซี้ที่มีสาวติดตึมต่อเนื่อง เมื่อมองเห็นสหายไม่มีคู่ครองก็เลยเชิญชวน นายสิบลอดให้จีบผู้หญิงบ้าง เวลาเดียวกัน บักป่อง เพื่อนฝูงอีกผู้ที่เพิ่งจบจากกรุงเทวดา ฯ ได้กลับมาที่บ้านด้วยเหตุว่าต้องการเปิดมินิมาร์ท ประกอบกับมีครูคนใหม่พึ่งย้ายเข้ามานามว่า อาจารย์แก้ว ทำให้จ่าลอดหมายตาที่จะจีบคุณครูเป็นแฟนให้ได้ งานนี้จ่าลอดจะลงเอยยังไง

เซียงจะพาเพื่อนกินแห้วหรือสมหวัง บักป่องจะได้เปิดมินิมาร์ทตามความฝันไหม เรื่องราวสุดหรรษาก็เริ่มขึ้นด้วยเรื่องราวกล้วย ๆ ราวกับมาดูวิถีชีวิตผู้คนในบ้านโนนคูณ ว่าบ้านนี้มีผู้ใดกันแน่ทำอะไรบ้าง ที่น่าดึงดูดก็คือแม้ตัวดำเนินเรื่องจะเป็นตัวจ่าลอดแม้กระนั้นไม่รู้สึกว่าเขาเด่นเกินไป กลับกลมกลืนกับตัวละครรองอื่น ๆ ได้ดิบได้ดีมากมาย ขณะที่หนังก็พาทำวิชาความรู้จักผู้แสดงรอง ๆ ได้อย่างเร็วเข้าใจง่าย กล่าวคือแค่ไม่กี่ฉากเราก็ทราบดีแล้วว่าคนภายในหมู่บ้านนี้หาเลี้ยงชีพอะไร

มีนิสัยอปิ้งไรบ้าง ไม่ทำให้คนดูมีความคิดว่าแออัดยัดเยียดเข้ามาเคมีนักแสดงถือว่าเป็นลักษณะเด่นของไทบ้าน ทุกนักแสดงทำให้เชื่อวางใจได้เลยว่าพวกเขาเป็นเพื่อนซี้ เป็นคนภายในหมู่บ้านเดียวกัน อย่างคู่นายสิบลอดกับเซียง ที่สนุกสนานมากเมื่อสองคนนี้อยู่ด้วยกัน นายสิบลอดกับครูแก้วก็ให้ความรู้ความเข้าใจสึกฟีลกู้ด

เหมือนกำลังจีบผู้หญิงแบบบ้าน ๆ ไม่ต้องเก๊กอะไรนัก เวลาที่เรื่องราวดำเนินไปตัวละรต่าง ๆ ก็ปรับปรุงเติบโตไปพร้อม ๆ กันด้วยครับภาพยนตร์ประเด็นนี้จะกล่าวอีสานทั้งเรื่อง ถ้าหากผู้ใดกันแน่งงเต็กก็จะมีซับไตเติลมาให้อ่านกัน แต่การแปลไม่อินกับบริบทขณะนั้น ในส่วนของสำเนียงอีสานก็พอฟังรู้เรื่องรวมทั้งตลกดี

แม้กระนั้นเรื่องราวที่เกิดในศรีษะเกษ แต่กลับปลอดคนบอกอีสานสำเนียงศรีษะเกษเลย ช่างน่าประหลาดดีจริงสำหรับใจความสำคัญอื่น ๆ ก็คงเป็นความธรรมชาติของหนังที่ดูแล้วไม่รู้ว่าดูหนังอยู่ เหมือนมาดูชีวิตของมนุษย์ว่าไปทำอะไรมาบ้าง มีการลบภาพลวงตาคติของชาวกรุงที่มักจะคิดว่าชาวอีสานกินแต่ส้มตำ

ในหนังเรื่องนี้ก็เปิดเผยให้เห็นว่าจริง ๆ คนบ้านนอกก็มีวิถีชีวิตแบบคนเมืองกรุง เดินห้าง ทานอาหารฟาสฟู้ด แบบเดียวกัน เป็นการตอกหน้าแบบเบา ๆ ว่า คนบ้านนอกก็มีดีนะเหตุนี้เลยทำให้ ไทบ้าน เดอะซีรี่ส์ ถูกอกถูกใจชาวอีสานมากไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะเหตุว่าความธรรมชาติบ้าน ๆ กับชีวิตของคนบ้านนอก เคมีผู้แสดงถูกกันดีเยี่ยม ๆ และฮามา กๆ แต่ละมุกขำขันที่ตัวละครจัดมา การเดินเรื่องที่ฉลาดเฉลียวมีการตบท้ายใจความสำคัญให้คิดต่อ

ซึ่งแน่นอนว่าตบท้ายให้มีภาคต่อแน่ ๆ หากแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะฉายไปนานแล้วแต่ก็ควรจะคู่กับการนำกลับมามองซ้ำ คนใดกันแน่ที่ไม่เคยมองก็เสนอแนะเลยครับว่าต้องมอง เนื่องจากว่าเป็นภาพยนตร์แนวไทยแบบบ้าน ๆ ที่ไม่เคยเจอจากหนังไทยเรื่องไหนมาก่อนครับ

สโตร์ผัก ในฝันของ ป่อง เริ่มเป็นตัวเป็นตน โดยมีผู้ช่วยนักธุรกิจอย่าง จาลอด ช่วยงานอย่างขยันขันแข็ง เพราะเหตุว่าต้องการสร้างเนื้อสร้างตัวให้มั่นคงสมหน้าตา ครูแก้ว ฝ่าย พระเซียง ที่พึ่งจะสงบจิตใจได้ไม่นาน กลับจะต้องมาใจสลายอีกครั้ง เมื่อ มืด มาบอกว่า ใบข้าว เสียชีวิตแล้ว ตอนที่ เฮิร์บ อยากทราบเพศลูกตัวเองมาก ก็เลยพา เจ๊สวย

ไปถามหลวงพ่อที่วัดจนกระทั่งไปตรวจที่โรงหมอ แต่และก็จำต้องผิดหวังเมื่อทราบดีว่าไม่ได้ลูกชาย กีโน ที่อยู่กินกับ แชมป์ เริ่มเพ้อเจ้อถึงอนาคตครอบครัวจนกระทั่งลืมพี่สาวท้องแก่ที่คอยเป็นห่วง ส่วน โรเบิร์ต ภายหลังถูก เดอะแก๊ง เอาไปปลดปล่อยวัดรวมทั้งไม่มีผู้ใดรู้ชะตาชีวิตโรเบิร์ต จะสร้างความอลหม่านให้วัดหรือไม่ สโตร์ผักเฮียป่อง จะไปได้ไกลสักขนาดไหน จาลอด จะสร้างความยั่งยืนและมั่นคงเพื่อ ครูแก้ว ได้ไหม แล้ว พระเซียง จะตัดใจจาก ใบข้าว ได้ยังไง ร่วมลุ้นหาคำตอบให้กับคำถามที่ยังคาใจ ว่า เพราะเหตุไรใบข้าวถึงตาย? แล้วก็เป็นอันมากจิตใจให้กับพวกเขาได้ใน

ไทบ้านเดอะซีรีส์ 2.2

หนังเป็นที่รู้จักอย่างแน่นแฟ้นกับแฟนคลับหนังคนไทบ้าน หนังม้ามืด ที่ทำเงินเป็นจริงเป็นจัง ในภูมิภาคอีสาน อันเป็นจุดยุทธศาสตร์ของหนัง ความสนุกและซื่อของหนังก็มีชื่อเสียงกระทั่งเปลี่ยนเป็นป่าล้อมเมือง คนกรุงก็รู้จัก แฟนหนังไทยก็ติดตามมอง ยิ่งเมื่อมีข่าวสารว่าภาค 2.2 นี้ไม่ผ่านเซ็นเซอร์ก็เปลี่ยนเป็นชื่อที่ได้ยินกันไปทั่วทุกหัวระแหง ทั้งเว็บข่าว ทั้งหมดหนัง

ซึ่งก็รับประกันว่ามีคนติดตามแล้ว ก็ตั้งใจต้องการมองอยู่ในทุกที่จริง ๆ โดยส่วนตัวขอการันตีในความสนุกสนานร่าเริงของหนังแม้ว่าจะฟังภาษาอีสานไม่เข้าใจทุกคำก็ตาม เพราะว่าบทและก็การแสดง รวมทั้งคณะทำงานที่สรรค์สร้างป้ายความผิดบริสุทธิ์ใจให้กับหนังกระทั่งพวกเราสัมผัสได้เต็ม ๆ เป็นภาพยนตร์ไทยอีกเรื่องที่ดูก่อนค้างเต็มก็ไม่เสียดายเลยหนังกลับมาเล่าย้อนแบบเนียน ๆ ถึง ปัญหาของผู้แสดงแต่ละกรุ๊ปเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะ มืด

น้องชายวัยรุ่นของจาลอดหวานใจสาวแม้กระนั้นสาวไม่สนใจ จาลอดที่ลงแรงกับป่องหวังตามฝันเป็นนักธุรกิจใหญ่ได้รับการยินยอมรับจากทางบ้านของแฟนสาวรวมทั้งด้านป่องก็ต้องการลบคำสบประมาทของพ่อตนเองที่ว่าทำอะไรไม่สำเร็จ และก็ตัวหลักในภาค 2 ที่พระเซียงหนีรักมาบวชต้องเข้าไปช่วยเพื่อนฝูง ๆ แต่ละคน อีกทั้งจำเป็นต้องตกลงใจตัวเองให้ลืมคนรักเก่าอย่างใบข้าวที่ท้องรวมทั้งสมรสกับคนอื่นไป จนกระทั่งด้านหลังภาค 2.1 ที่พระเซียงต้องรับรู้ว่าใบข้าวตาย ก็ทิ้งเป็นปมใหญ่ที่ช็อกคนดูและอยากทราบความเป็นไปมากที่สุดด้วยอย่างที่พูดว่าหนังเล่าย้อนเนียนมากจนถึงยังไม่มั่นใจว่า 20 นาทีแรก

มีรูปทรงของภาคเก่าแค่ไหน แล้วก็ปมใบข้าวตายก็ถูกย้อนความไปก่อนหน้านานอยู่ กระทั่งเราจะต้องคอยว่ากำเนิดอะไรขึ้นกับใบข้าว รวมทั้งพระเซียงจะจัดการยังไง ซึ่งกว่าจะไปบรรจบกับตอนสุดท้ายภาคแรกก็เกินครึ่งเรื่องหลังไปแล้ว แม้กระนั้นระหว่างทางก่อนนั้นหนังก็ยังสนุกสนานด้วยเนื้อหาต่าง ๆ ที่เรายังไม่เห็นในภาค 2.1

แล้วก็ยังมีการปรับปรุงเรื่องราวความเกี่ยวเนื่องของแต่ละตัวละครอย่างชัดเจนขึ้น มีมุกขำ ๆ ให้ดูให้ฟังกันตลอดจนไม่เคยทราบสึกอารมณ์เสียที่หนังย้อนความไปเสียไกลขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ตั้งอกตั้งใจมารอดูสุดกำลังว่าข้างหลังใบข้าวตายพระเซียงจะทำอย่างไรหนังยังโดดเด่นสำหรับในการถ่ายทำที่ได้อารมณ์ความเป็นบ้านนอกขนานแท้ แต่ว่าก็เป็นบ้านนอกแบบมีความสุข ความเรียบง่าย แสงสว่างอุ่น ๆ การถ่ายมุมกล้องที่สวยสดงดงามและก็มองจริงไปพร้อม

อีกทั้งบทรวมทั้งนักแสดงตัวหลักตัวประกอบก็ยังคงคุณงามความดีจากเดิมมาอย่างไม่มีตก ทุกสิ่งทุกอย่างง่ายอย่างยิ่งมากที่ผู้ชมจะตกเข้าไปสู่ห้วงของผู้แสดงราวดกับพวกเราเป็นเพื่อนสนิทของพวกเขาอีกคน ความรู้สึกอะไรก็แล้วแต่ที่พวกเขารู้สึก พวกเราก็รับรู้ได้ราวกับเป็นเรื่องของพวกเรา

แบบนี้เพราะบทหนังนั้นล้วนแล้วแต่นำเหตุการณ์ที่กาลครั้งหนึ่งพวกเราอาจจะต้องเคยผ่านมาในชีวิตจริงทั้งสิ้น ทั้งความรัก ความไม่สมหวัง การสูญเสีย นี่ก็เลยเป็นจุดเด่นอีกประการ นอกจากการพรีเซ็นท์ความเป็นเขตแดนอีสานแบบโซเรียล (เรียลขนาดว่าพิธีกรรมเผาศพแบบต่างจังหวัดทำเอากระอั่กกระอ่วนไม่เบา) ที่ทำให้ไทบ้านเป็นหนังที่ทุกคนเป็นเจ้าของจองห้วงอารมณ์ได้

และก็ในภาคนี้หนังก็ยังมีดนตรี รวมทั้งเพลงที่ประทับใจติดหู เป็นลายเซ็นให้คนจดจำเจริญอีกเป็นต้นว่าเดิม คนไหนต้องการรู้ที่มาที่ไปของพระเซียงกับใบข้าวนี่ แค่ดูเอ็มวีจนจบ จะเข้าใจได้เลยว่า เพราะอะไรพระเซียงต้องไปเคาะโลงร้องไห้ กระทั่งฉากนี้ ถูกหั่นทิ้ง สิ่งที่มีความรู้สึกว่าหนังควรต้องเอาใจใส่กว่านี้มีอยู่บ้างตรง

ดูดซึมภาษาไทยภาคกลาง ที่แปลจากคำกล่าวชาวอีสาน ยังแปลได้ไม่สะเด็ด อาจเพราะกลัวหยาบไปหากแปลตรงตัว แต่ว่าก็รู้สึกว่าน่าจะหาคำ ที่มันได้อารมณ์บูดงอีสานมากยิ่งกว่านี้ ด้วยเหตุว่าหนัง ก็มีความเป็นวัยรุ่นอยู่แล้ว อย่างคำว่า สี หนังก็หมายความว่าร่วมเพศ ซึ่งทำให้บริบทที่ผู้แสดงสบถกระทบกระแทกแดกดันดูประหลาด ไม่ได้อารมณ์

จะใช้คำวัยรุ่นที่กำกวมอย่าง ฟีท(เจอริ่ง) หรือ เย ก็บางครั้งอาจจะได้อารมณ์กว่า นอกนั้นดูดซึมยังสร้างการรับรู้การสะกดคำไม่ถูก ๆ อยู่หลายคำ ที่สะดุดใจเป็นพิเศษคือ โอกาส ที่หนังเขียนผิดแบบวัยรุ่นที่มักเขียนไม่ถูกกันประจำว่า โอกาศ ซึ่งอาจก่อให้เด็กที่มองเข้าใจไปว่าที่เขียน ศ สะกดถูก ฯลฯและด้วยการที่หนังถูกขยายออกมาเป็น 2.1 และ 2.2

ก็ทำให้ลุคของนักแสดงกระโจนไป ๆ มา ๆ ไม่ต่อเนื่อง มองเห็นกันถนัดสุดคงเป็นมืด ที่ทรงผมเปลี่ยนไปมาในหลายฉาก ก็น่าจะเป็นบทเรียนให้คณะทำงานถัดไปและตอนท้ายที่พูดว่าไม่สาแก่ใจ ด้วยเหตุว่าเอาจริง ๆ เรื่องรุดหน้าจากภาค 2.1 ไปน้อยมาก แม้กระนั้นรายละเอียดที่เพิ่มมาก็พอเพียงประคองหนังให้มองสนุกกระทั่งยกโทษได้ รวมทั้งที่สำคัญหนังสิ้นสุดลงด้วยความอยากรู้อยากเห็นอยากมองเข้าไปอีก แม้หลายเงื่อนจะคลี่คลายหรือเราพอเพียงอนุมานได้ว่าจะลงเอยยังไง

แต่ปมที่หนังทิ้งระเบิดลงหนัก ๆ ในตอนจบแบบพลิกบรรยากาศให้เสียวสันหลังขึ้นฉับพลัน ก็ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นจนถึงอยากรอดู ก้าวต่อไปของทีมงานมาก ๆ ว่าจะนำผู้ชมไปสู่หนัง สัปเหร่อ ที่จะมาแนวใหม่นี้ได้บันเทิงใจแค่ไหน แล้วก็หากสำเร็จก็บอกเลยว่าหนังจะเป็นหนังผีตลกโปกฮาที่น่าดึงดูด และอาจช่วยสร้างบรรทัดฐานของหนังผีเฮฮาฉบับไทยให้ดูดีขึ้นอย่างมาก ๆ ครับผม

https://www.amitierencontre.com/