รีวิว The Wolf of Wall Street: ออกล่าเงิน เพื่อบำเรอกิเลสอันไม่สิ้นสุด
รีวิว The Wolf of Wall Street มีโอกาสจับ The Wolf of Wall Street มาดูซ้ำอีกรอบ ภายหลังจากดูรอบแรกไปในโรงภาพยนต์เมื่อหลายปีก่อนหน้านี้เอากลับมามองอีกทีก็ยังสนุก ถึงแม้หนังจะมีความยาวเกือบจะๆ3 ชั่วโมง เห็นจำนวนนี้แล้วบางครั้งอาจจะชวนให้รู้สึกห่อเหี่ยว แม้กระนั้นเชื่อเถอะว่าเป็น 3 ชั่วโมงที่เพลิดเพลินกระทั่งลืมเวลาไปเลย The Wolf of Wall Street คือหนังที่สร้างขึ้นจากเรื่องราวชีวิตจริงของจอร์แดน เบลฟอร์ด (แสดงโดย Leonardo DiCaprio) อดีตโบรกเกอร์หุ้น ผู้ก่อตั้งบริษัทหลักทรัพย์ Stratton Oakmont หนังเริ่มต้นเล่าของจอร์แดนยุคที่เข้าไปทำงานใน Wall Street ใหม่ๆทำงานในฐานะโบรกเกอร์ได้เพียงแค่วันเดียว ก็แจ็กพ็อตพบสถานะการณ์ Black Monday ทำตลาดหุ้นตกทั่วโลก บริษัทจำเป็นต้องปิดตัว (ดวงไม่ดีอะไรขนาดนี้) จอร์แดนเลยต้องหางานใหม่
จบลงด้วยการไปเป็นโบรกเกอร์ในบริษัทต่างจังหวัด ขายหุ้น Penny Stock หรือหุ้นที่แพงถูกมากมายๆของบริษัทเล็กๆไม่มีชื่อเสียง สกิลการขายสินค้าเขาเทพมากขนาดที่ว่าทุกๆคนจะต้องบูชาเชื่อถือถัดมาจอร์แดนก็ออกมาเปิดบริษัทของตนซะเลย ซึ่งต่อมาก็ทำให้น่าไว้ใจขึ้นโดยใช้ชื่อว่า Stratton Oakmont ตรงนี้เป็นที่ที่เขาได้ร่วมริเริ่มตั้งขึ้นกับกลุ่มสหาย รวบรวมผู้คนที่ทะเยอทะยานและก็ต้องการมั่งมีให้มาดำเนินการเป็นคนกลางค้าขายหุ้น
จอร์แดนปลูกฝังให้ทุกคนออกล่าเงินอย่างหิวหิว สมกับสมญานามหมาป่าแห่งวอลล์สตรีต ถึงขั้นใช้กลโกงล้นหลามสำหรับเพื่อการลวงล่อลูกค้าให้ซื้อหุ้นห่วยๆหรือหลอกให้ซื้อหุ้นปั่น เพื่อกำไรจากค่าคอมมิชชั่นและส่วนต่างราคาอันเป็นอันมาก โดยตัวเขารวมทั้งกลุ่มก็อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังการฟอกเงินและก็การตีหุ้นจอร์แดนได้ถูกปลูกฝังให้ออกล่าเงินตั้งแต่ทีแรกๆๆที่เขาเข้ามาปฏิบัติงาน โดย มาร์ก ฮันทุ่งนา (Matthew McConaughey) เจ้าของ L.F. Rothschild วาณิชธนกิจที่จอร์แดนไปปฏิบัติงานที่แรก ได้ฝังความคิดที่ว่า “พวกเราจำเป็นต้องเอาเงินของลูกค้ามาเป็นของเรา!” เขายึดมั่นความศรัทธานี้ตลอดมา และมันก็ทำให้เขากอบโกยรายได้มากมายก่ายกองจริงๆเงินที่ได้มานั้น เกือบจะถูกใช้ไปบำเรอกิเลสตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นสารเสพติด หญิงงามเมือง ของใช้ของสอยหรูหรา งานปาร์ตี้ที่ที่ทำงานที่คือครึกโครมโลกแตกมากมาย เป็นบริษัทที่โคตรเมากาว มองดูแบบโลกสวยเป็นคนรวยมีพร้อมทุกๆอย่างจริงๆเงินแทบแปลงเป็นเศษกระดาษไปเลย แต่ว่าถึงแบบนั้นจอร์แดนแล้วก็พรรคพวกก็ไม่รู้สึกพอเพียง แม้ว่าจะมีอย่างมากมายสุดแท้แต่ก็ยังฉกฉวยต่อ จนถึงความผิดพินิจนั้นลุกลามไปถึง FBI ที่เริ่มสงสัยว่าบริษัทนี้แกทำอะไรกัน และก็เริ่มมาตาความเห็นชอบดจอร์แดน
แม้ว่าชื่อหนังจะมีคำว่า Wall Street ซึ่งบางทีก็อาจจะฟังดูน่าสยดสยองสำหรับคนไหนที่ไม่คุ้นเคยกับตลาดค้าหุ้น
กลัวจะดูไม่รู้เรื่อง พวกเราขอบอกเลยว่าไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง เพราะว่าหนังสัมผัสเรื่องหุ้นน้อยมากกกก แล้วก็ถึงแตะ ก็ไม่น่าจะเกิดเรื่องยากต่อการรู้เรื่องเท่าไร ตกลงว่าเนื้อเรื่องหลักส่วนใหญ่ไม่ได้กล่าวถึงเรื่องหุ้น และแน่นอนว่าไม่ได้เป็นหนังแนว Inspirational ที่แจ้งว่าจะรวยหุ้นได้ยังไง หรือจะร่ำรวยได้ยังไงด้วยแล้วหนังกล่าวถึงอะไร? ส่วนใหญ่จะเล่าไปถึงชีวิตของจอร์แดนในฐานะผู้ชายรวยที่ไม่รู้จักพอเพียงคนนึง พวกเราจะได้มองเห็นความนึกคิดของเขาที่มองลูกค้าเหมือนเป็นเหยื่อ
เห็นเบื้องหลังความรวยที่แสนจะเทา เห็นชีวิตเห่อเหิมที่มองเสพติดความสำราญแต่ไม่มีแก่นสารใดๆทั้งหมดทั้งปวง และสุดท้ายก็จะได้มีความเห็นว่าผลกระทบของความประพฤติของเขานั้นทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ทำให้เราเสนอคำถามว่า “ทั้งปวงนี้มันคือความสบายจริงๆหรอ”ถ้าหากจะให้เจาะลึกอีกนิด หนังแทบจะเน้นไปที่ความฟู่ฟ่าของชีวิตจอร์แดนซะเป็นส่วนมาก ฉากเสพยามีให้เห็นเป็นว่าเล่น เสพกันเหมือนกับกินเป็นมื้อหลัก บทพูดก็ใช้คำ F และก็คำอื่นๆกันอย่างพัง
ฉากเซ็กซ์ก็อล่างฉ่างแบบไม่แพ้หนังโป้หนังผู้ใหญ่ เนื่องจากว่ามันโป๊แบบมองเห็นทุกสิ่งทุกจังหวะจริงๆนั่นละ จนถึงบางครั้งบางคราวก็คิดสงสัยว่ากำลังมองอะไรอยู่วะ 55555 แน่ๆว่านี่ไม่ใช่หนังที่เหมาะสมกับลูกๆหลานๆเด็กและเยาวชนควรมองแบบมีผู้ใหญ่รอแนะนำด้วย เนื่องจากว่าหนังไม่ได้เน้นย้ำถึงส่วนของ drawback หรือผลพวงด้านห่วยแตกเท่าไร อย่างการเสพยา ก็จะให้น้ำหนักไปกับความฟินมากกว่าโทษที่ร่างกายได้รับ
หนังดำเนินเรื่องอย่างเสียดสีจิกกัดและก็เกือบจะเป็นคอมเมดี้ทั้งเรื่อง
ไม่ต้องมุ่งหวังว่าจะได้ดูหนังหุ้นอารมณ์เคร่งขรึมเลย ด้วยเหตุว่าเรื่องนี้ไม่มี มีแต่ว่าตลกขบขันแล้วก็บ้าบิ่น อะดรีผู้หญิงนพุ่งพล่าน บทพูดไม่ยืดยาด ดูหนังแล้วราวกับนั่งรถไฟบินอย่างที่เค้าว่าจริงๆแทบจะมิได้มีพัก ลุงมาร์ติน สกอร์เซซี่ กำกับหนังได้เก๋ามากมาย เฮียลีโอในบทจอร์แดนนี่เป็นอะไรที่สุดรวมทั้งรั่วเว่อร์ๆเล่นได้ถึงแก่นและก็ล้นสุดกู่ อันนี้ยอมพี่แกเลยถึงแม้ผิวเผินหนังจะดูเน้นย้ำเสพความสำราญไปหน่อย แม้กระนั้นก็แอบแฝงแง่คิดไว้หลายเรื่อง โดยยิ่งไปกว่านั้นเรื่องของความโลภ ความทะเยอทะยาน ความไม่รู้จะเพียงพอ แล้วก็ความอยากได้ที่ก่อให้เกิดจากสัญชาตญาณดิบ
ที่ถ้าหากพวกเราควบคุมไม่ได้ พวกเราก็จะกลายเป็นข้าทาสของมัน ยอมทำทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเพื่อให้ได้มันมาถือครอง โดยไม่สนวิธีการ และไม่รับทราบว่าผลกระทบจะคืออะไร เหมือนจอร์แดนที่เห็นเงินเป็นพระผู้เป็นเจ้า เชื่อว่าความร่ำรวยแก้ปัญหาได้ทุกๆอย่าง ใช้ทรัพย์สินแลกมาซึ่งความสำราญทางโลก ทำให้เขาดิ้นรนรีดไถเงินออกมาจากกระเป๋าคนอื่นให้ได้มากที่สุด แม้ว่าจะจำเป็นต้องล้วงเล่ห์เหลี่ยมอะไรออกมา หากว่ามันจะเสี่ยงโคตรๆต่อการเช็ดกจับเข้าตารางก็ตามการมีรถยนต์หรู เรือยอร์ช เพ้นต์เฮ้าส์ แฟนหล่องาม อาหารรสเลิศ ธนาคารพันเป็นปึกๆตัวเลขในบัญชีเหยียบหลักล้าน
ล้วนแต่เป็นความสุขระดับท็อปๆที่คนไม่ใช่น้อยใฝ่ฝันต้องการจะมีไว้ถือครอง แต่ก็ไม่ได้แปลว่านิยามความสำราญมันจะมีเท่านี้ เพราะในความเป็นจริงแล้วความสุขมันก็อยู่ที่ตัวเราเองนั่นแหละ ถ้าเรามีครบทุกสิ่งแล้ว แต่หัวใจเรายังไม่รู้จักสึกว่าพอเพียง เราก็ยังทุกข์อยู่ แล้วหลังจากนั้นก็จะร้อนรุ่มหามันถัดไป แต่ว่าหากเราค้นพบว่าเราโอเคแล้ว เพียงพอแล้ว เท่านี้เราก็มีความสุขได้โดยไม่ต้องไปไขว่คว้าอะไรเพิ่มถ้าจำเป็นต้องไปคดโกงชาวบ้านเพื่อให้ตัวเองร่ำรวย
แล้วต้องมาคอยระมัดระวังว่าจะโดนจับได้ จำต้องมาคอยคิดหาวิธีพลิกแพลงให้ตนเองรอด พวกเราจะมีความสุขอย่างสมบูรณ์ได้อย่างไรท้ายที่สุดแล้ว จอร์แดนก็ได้รับบทบาทลงโทษในสิ่งที่เขาได้ก่อไว้ โชคดีของเขาที่ยังได้รับอีกจังหวะหนึ่งที่ทำให้เขาลุกขึ้นยืนมาสลับตัวเอง ทำอาชีพใหม่ด้วยการเป็นนักพูดสอนวิชาการขาย เริ่มชีวิตใหม่โดยให้ตราบาปในอดีตกาลเป็นบทเรียนโดยรวมแล้ว The Wolf of Wall Street เป็นหนังที่หยิบมาดูซ้ำก็ยังบันเทิงใจรวมทั้งเพลิดเพลิน
ฉากเสพสุขต่างๆสารภาพว่ามันก็ทำให้หนังเบิกบาน แต่ว่าบางจุดก็ทำให้มีความรู้สึกสิ้นหวังได้เช่นเดียวกันว่าอะไรมันจะหลงระเริงไปได้ขนาดนั้นหนอมนุษย์ มันทำให้เรากลับมามองดูย้อนชีวิตปกติสุขปกติของตัวเองว่า เอ้อ พวกเราพอใจกับชีวิตตัวเองแล้วละ ไม่ต้องไปถึงกับขนาดนั้น ขออยู่แบบมนุษย์ปุถุชนๆที่ไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจว่าตำรวจจะมาจับเมื่อไร จะซ่อนเงินที่โกงเค้ามาไว้ที่แหน่งใด แล้วเวลาใดสิ่งที่เคยหลอกราษฎรไว้จะโป๊ะแตกขึ้นมา…ด้วยเหตุว่าการเลียน้ำผึ้งบนปลายมีด มันไม่ได้เหมาะสมกับทุกคนหรอก
เป็นหนังที่สร้างมาจากชีวิตจริงของ จอร์แดน เบลฟอร์ท ที่ได้ผู้แสดงหนุ่มหล่อชั่วกับชั่วกัลป์อย่าง ลีโอทุ่งนาร์โด ดิติดอยู่ปริโอ มารับบทแสดงเป็นคนกลางค้าหุ้นรวมทั้งผู้จัดตั้งบริษัทโบรกเกอร์รุนแรง ชายหนุ่มไฟแรงแห่งวอลล์สตรีท จนได้รับฉายา สุนัขป่าแห่งวอลสตรีท ตั้งแต่ตอนที่เขาทำเงินได้อย่างมหาศาล ก่อนจะผลาญเงินไปเป็นอันมากไปกับการปาร์ตี้ สุรา ยา เซ็กส์ จนกระทั่งสุดท้ายก็ถูกตั้งข้อกล่าวหาฉ้อโกงหลักทรัพย์ และ ฟอกเงินในปี 1998 ถูกขัง 22 เดือนในคุกของเมือง และ ถูกแบนจากตลาดหลักทรัพย์ตลอดชาติ
จนกระทั่งโดน ครอบครัว เพื่อนพ้อง คนที่ไว้ใจละเลย ชีวิตพังทลายไปทั้งสิ้น แม้กระนั้นโน่นก็เป็นเพียงอดีต ในตอนนี้ จอร์แดน ได้ผันตัวไปเป็นนักพูดสร้างแรงผลักดันเขาต้องการถ่ายทอดสมัยก่อนรวมทั้งความกล้าหาญแสบๆปนสาระ ให้ผู้ชมผู้ฟังได้รับทราบ รวมทั้งทำให้พวกเขาเข้าใจว่า คนไม่ใช่น้อยหากแม้พวกเขานั้นจะเคยทำผิดมาก่อน พวกเขาควรที่จะได้รับช่องทางให้มีที่ยืนบนสังคมอีกที ซึ่งมองเห็นได้จากการที่เขาแปลงเป็นนักพูดสร้างแรงผลักดันให้ผู้คนทั่วทั้งโลกได้ทั้งๆที่เขาเคยอยู่ในตารางถึง 22 เดือน ในหนังหัวข้อนี้จะเอ๋ยถึงชีวิตของ จอร์แดน เบลฟอร์ท ( ลีโอทุ่งนาร์โด ดิค้างปริโอ ) ที่เคยเป็นบุคลากรของบริษัทแห่งหนึ่ง แล้วก็ บริษัทได้ปิดตัวลงเพราะเหตุว่าต้นเหตุด้านการเงิน ทำให้แปลงเป็นคนว่างงาน
และก็เขาได้มาพบกับบริษัทขายหุ้นเล็กๆแห่งหนึ่งที่มองไม่เป็นมือโปรเอาซะเลยเขาจึงเข้ามาดำเนินงานในบริษัทนี้ และด้วยความเก่งกล้าของจอร์แดน เขาสามารถทำให้บริษัทใหม่ที่เขาเข้ามาดำเนินการ ทำรายได้กำไรมหาศาลภายในช่วงระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนเพียงแค่นั้น โดยผลกำไรมาจากการ ขายหุ้นโหดร้าย แล้วก็ได้เงินมาจากการหลอกขายหุ้นให้กับพลเมืองผ่านทางโทรศัพท์จากที่ขายให้กับคนภายในโทรศัพท์ระดับฐานะปานกลางก็ค่อยๆขยับไปขายให้กับคนมีฐานะระดับเศรษฐี ทำให้บริษัทของเขาเปลี่ยนเป็นบริษัทโด่งดังวัยรุ่นมากไม่น้อยเลยทีเดียวหลายๆคน
อยากที่จะร่วมเป็นพนักงานในบริษัทของเขา เนื่องจากมีเงินเดือนที่ดีเยี่ยมๆแล้วก็มีโบนัสตลอด แถมยังมีกิจกรรมอีกเยอะมากรอผ่อนคลาย แม้กระนั้นหากแม้ชีวิตของเขาจะมีเงินมากมายก่ายกอง ความข้องเกี่ยวของเขากับครอบครัวไม่ดีมากนัก เนื่องด้วย จอร์แดนไม่ค่อยตั้งใจเมีย แล้วก็ ชีวิตวันหลังของจอร์แดน มักจะโดนตำรวจเพ่งเล็งเพราะว่าสงสัยว่าทำฟอกเงิน และ โกงราษฎร ทำให้เขาโดนจำคุกถึง 22 เดือน และเมียได้ขอฟ้องคดีหย่ากับเขา เพื่อนฝูง ๆ ก็ละทิ้ง จอร์แดนจะทำเช่นไรกับชีวิตของเขา สหาย ๆ สามารถติดตามดูเต็มเรื่องได้ใน Netflix ได้เลยค่า ความเห็นหลังจากดูหนังจบ
คนเขียนมีความคิดว่าเป็นหนังที่ดีเยี่ยม ๆ อีกทั้งมีสาระ แทรกสอดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแวดวงหุ้น เบื้องหลังด้านมืดของแวดวงธุรกิจต่าง ๆ และยังสอนเกี่ยวกับ การใช้ชีวิต เงินไม่ใช่ทุกอย่าง เงินไม่ใช่แค่สามารถซื้อสิ่งของได้เท่านั้น เงินยังสามารถสอนบทเรียนที่ทำให้พวกเราเปลี่ยนเป็นคนดีได้อีกด้วย เป็นต้นว่าการที่ จอร์แดน ตอนนี้กลายเป็นนักพูดสร้างแรงจูงใจให้กับคนอีกหลายคนทั่วโลก รวมทั้งในหนังเรื่องนี้ยังสอนเกี่ยวกับการเลือกคบสหาย
การให้ความสนใจครอบครัวของตนเอง แล้วก็กระบวนการทางการตลาด หรือธุรกิจต่าง ๆ คนใดที่เรียนเกี่ยวกับการบริหาร ผู้เขียนมีความคิดว่าหนังหัวข้อนี้เป็นประโยชน์มากมาย ๆ และก็ผู้แสดงถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกได้ดี หนังดูได้สบาย ๆ สนุก หัวเราะได้ตลอด เนื้อหาไม่น่าเบื่อ ผู้ใดที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจก็สามารถเข้าใจได้ ผู้เขียนให้แต้ม 10/10 ไปเลยค่า